รองเท้าวิ่งสำหรับผู้หญิง รุ่นไหนดี 7 อันดับ ที่น่าซื้อ อัพเดทล่าสุดปี 2567

เทรนด์การวิ่งออกกำลังกายในปัจจุบันสามารถแบ่งออกได้เป็นหลากหลายสไตล์ แต่ในการเลือกรองเท้าวิ่งให้ดีที่สุด เรายังต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่น ๆ ประกอบด้วย ดังนั้น เรามาดูรายละเอียดทั้ง 4 ข้อที่จำเป็นต่อการเลือกรองเท้าวิ่งกันเลยดีกว่าค่ะ

รองเท้าวิ่งแต่ละประเภทถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับการใช้งานเฉพาะทาง ด้วยวัตถุประสงค์หลักเพื่อป้องการการเกิดอาการบาดเจ็บ หากคุณได้ทำความเข้าใจถึงประเภทของรองเท้าวิ่งจะช่วยให้สามารถเลือกซื้อรองเท้าที่เหมาะกับตัวเองได้ด้วยค่ะ

สำหรับรองเท้าประเภทนี้ ถือเป็น 1 ในรองเท้าวิ่งที่มีพื้นรองเท้าและส้นที่ค่อนข้างหนา จึงเหมาะที่จะสวมใส่ในกรณีที่ เน้นการรองรับและการกระจายแรงกระแทกจากการวิ่ง สามารถนำไปใช้งานได้อย่างหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งบนลู่ในยิม สนามกีฬา ไปจนถึงการวิ่งออกกำลังกายในสวนสาธารณะ หากเป็นคนที่มีลักษณะของรูปเท้าแบบโค้งเว้าก็จะยิ่งเหมาะกับรองเท้าประเภทนี้มาก แต่คนที่มีรูปเท้าปกติก็สามารถใช้ได้เช่นกันค่ะ

รองเท้าวิ่งประเภทนี้จะมีความหนาและมีความทนทานสูง ส่งผลให้มีมีน้ำหนักมากตามไปด้วย แต่ก็มีข้อดี คือ สามารถรองรับแรงกระแทกได้ดี ไม่แพ้แบบแรก ช่วย ป้องกันอาการบาดเจ็บบริเวณข้อเท้าและกล้ามเนื้อขา ได้เป็นอย่างดีแถมยังมีการออกแบบเพื่อป้องกันไม่ให้ข้อเท้าบิดเข้าด้านในขณะกำลังวิ่งอยู่ด้วยค่ะ เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่มีฝ่าเท้าแบนทั้งมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มวิ่ง ไปจนถึงมือโปรที่วิ่งออกกำลังกายแทบทุกวันค่ะ

ต่อมา จะเป็นรองเท้าวิ่งลูกผสมระหว่างแบบ Motion Control และแบบ Cushioned ค่ะ ทำให้มีคุณสมบัติในการช่วยดูดซับแรงกระแทกได้ดี มีความสมดุลสูง ช่วยให้ทรงตัวได้ดี แถมยังแข็งแรงทนทาน ช่วยป้องกันการเกิดอาการข้อเท้าพลิกและการหกล้มขณะวิ่ง เหมาะกับการใช้งานแบบวิ่งบนพื้นถนน (Road Running) หรือการวิ่งขึ้นลงบันได แต่อาจจะไม่เหมาะกับสาว ๆ ที่มีรูปเท้าที่ต่างจากปกติสักเท่าไรนะคะ

รองเท้าประเภทนี้มีลักษณะตามชื่อเรียกเลยค่ะ นั่นก็คือ น้ำหนักเบามาก เหมาะกับสายนักวิ่งที่อยากทำความเร็วในการแข่งขัน อย่างเช่น ในการแข่งขันวิ่งมาราธอน เป็นต้น แต่เนื่องจากเป็นรองเท้าที่มีแผ่นรองเท้าบาง รองส้นน้อย ทำให้ดูดซับแรงกระแทกได้ไม่ดีเท่ารองเท้าวิ่งชนิดอื่น แถมยังไม่นุ่มเท้าเหมือนแบบ Cushioned Running Shoes อีกด้วย รองเท้าวิ่งประเภทนี้ จึงไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งหัดวิ่ง หรือผู้ที่ยังไม่ชำนาญมากพอ เพราะอาจจะทำให้เกิดการบาดเจ็บจากการลงน้ำหนักเท้าได้ค่ะ

หากใครเป็นคนรักธรรมชาติและชื่นชอบการวิ่งเทรล จะต้องเลือกรองเท้าประเภทนี้เลยค่ะ เพราะเป็นรองเท้าสำหรับวิ่งบนพื้นดินหรือพื้นหินที่ไม่มีความเรียบ เนื่องจาก ใต้พื้นรองเท้าจะมีดอกยาง แหลมนูนอยู่ ซึ่งดอกยางนี้มีความสามารถในการ ยึดเกาะกับพื้นที่เป็นหินกรวด ช่วยให้ทรงตัวได้ดี บริเวณหน้าเท้าและส้นมีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ ช่วยป้องกันการทิ่มแทงจากเศษกิ่งไม้ หญ้าแหลม หรือกรวดทรายขณะวิ่ง เพื่อให้ทุกก้าวของคุณมั่นใจและปลอดภัยกว่าที่เคย

รองเท้าวิ่งที่ดีควรให้ความรู้สึกที่มั่นคงและกระชับเข้ากับข้อเท้าเมื่อสวมใส่ หากลองแบะเท้าออกด้านข้างจะต้องไม่รู้สึกโอนเอน รวมถึงควรมีพื้นที่เหลือพอเหมาะบริเวณปลายเท้าของผู้สวมใส่ เพื่อไม่ให้บีบอัดปลายเท้าจนรู้สึกเจ็บนิ้วเท้าขณะวิ่ง แต่คุณควรระมัดระวังเกี่ยวกับเรื่องของ "ช่วงเวลาในการเลือกซื้อรองเท้า" เพราะตอนกลางวันกับตอนเย็น เท้าของคนเราจะมีขนาดที่แตกต่างกันไป ซึ่ง ช่วงเย็นหรือหัวค่ำนั้นจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเลือกซื้อรองเท้า ค่ะ เพราะเป็นช่วงที่ฝ่าเท้าขยายตัวอย่างเต็มที่ ช่วยให้คุณได้รองเท้าที่พอเหมาะกับขนาดเท้าของตัวเองมากที่สุดนั่นเองค่ะ

นอกจากนี้ การเลือกรองเท้าวิ่งให้มีความเหมาะสมกับลักษณะของรูปเท้า ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการวิ่งให้กับคุณได้อีกด้วยนะคะ อาทิ คนที่มีฝ่าเท้าสูง (High Arch) และข้อเท้าอยู่ในลักษณะโก่งออกด้านข้าง มักจะลงน้ำหนักไปที่เท้าด้านนอกมากกว่าขณะวิ่ง จึงควรเลือกใช้รองเท้าวิ่งแบบ Cushioned หากสาว ๆ คนใดต้องการรู้จักลักษณะรูปเท้าของตนเอง เราขอแนะนำให้ไปที่ร้านที่ขายรองเท้าวิ่งโดยเฉพาะ เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยวิเคราะห์และแนะนำรูปแบบของรองเท้าที่เหมาะสมให้ค่ะ

การเลือกรองเท้าให้ถูกต้องและเหมาะสมกับวัตถุประสงค์การใช้งานเป็นสิ่งที่สำคัญมากค่ะ เพราะนอกจากจะช่วยซัพพอร์ตการวิ่งของคุณแล้ว ยังช่วยให้รองเท้าไม่เสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควรด้วยนะคะ อาทิ การวิ่งมาราธอน ควรเลือกใช้รองเท้าประเภท Lightweight การวิ่งบนถนนหรือลู่วิ่ง ควรใช้รองเท้าที่มีพื้นหนา น้ำหนักเบา รองรับแรงกระแทกได้ดีอย่าง Cushioned หรือ Motion Control ส่วนการวิ่งเทรลและ Cross Country สำหรับสายลุย เราขอแนะนำเป็นรองเท้าประเภท Trail หรือ Allterrain ซึ่งช่วยเกาะกับพื้นผิวถนนที่ขรุขระและยึดฝ่าเท้าให้วิ่งได้อย่างมั่นคงค่ะ

อย่างที่เราได้เกริ่นไปแล้วว่า รองเท้าวิ่งที่มีน้ำหนักเบาจะไม่ค่อยเหมาะกับนักวิ่งมือใหม่ เพราะมีแผ่นรองฝ่าเท้าที่ค่อนข้างบางเบา ทำให้ผู้สวมใส่ที่ยังไม่มีทักษะมากพอเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บจากแรงกระแทกที่นับเป็น 2 - 3 เท่าของน้ำหนักตัว ดังนั้น สำหรับคนที่ยังไม่ชำนาญมากพอหรือเพิ่งเริ่มหัดวิ่ง เราขอแนะนำให้เลือกรองเท้าที่มีแผ่นรองฝ่าเท้าหนา โดยแต่ละข้างควรมีน้ำหนักอยู่ที่ 250 - 280 กรัมค่ะ

และสำหรับสาว ๆ สายวิ่งที่มีความชำนาญพอสมควรแล้วและต้องการทำเวลาในการวิ่ง การเลือกรองเท้าที่มีน้ำหนักเบาจะถือเป็นตัวช่วยสำคัญทีเดียวค่ะ มีรายงานการวิจัยเกี่ยวกับรองเท้าวิ่งจากมหาวิทยาลัยโคโลราโด โบลเดอร์ ที่ทำการทดลองในปี 2016 พบว่า น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น 100 กรัม สามารถทำให้วิ่งช้าลงได้ 1% จากเดิม อย่างไรก็ตาม หากคุณไม่ได้คิดจะแข่งขันหรือเป็นนักวิ่งมืออาชีพ การเลือกรองเท้าวิ่งที่มีน้ำหนักเบาในระดับหนึ่ง แต่มีคุณสมบัติช่วยดูดซับแรงกระแทกและซัพพอร์ตข้อเท้าได้ดีก็นับว่าเพียงพอแล้วค่ะ

หลังจากที่ได้ข้อมูลความรู้ในการเลือกซื้อรองเท้าวิ่งกันพอสมควรแล้ว เรายังมีรองเท้าวิ่งสำหรับผู้หญิงจากแบรนด์ยอดนิยมมาแนะนำกันต่อด้วยค่ะ ใครที่สนใจรองเท้าวิ่งแบบไหนอยู่ ลองไปติดตาม 10 อันดับ ด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ

การเลือกซื้อรองเท้าที่ดีที่สุด คือ การไปลองสวมที่ร้านขายรองเท้าเลย เพราะรองเท้าวิ่งแต่ละรุ่น แต่ละประเภทนั้นถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับลักษณะของฝ่าเท้าที่ต่างกันออกไป เช่น บางรุ่นอาจเหมาะกับผู้ที่มีเท้าแบนโดยเฉพาะ เป็นต้น สำหรับคนที่ไม่ทราบเกี่ยวกับลักษณะฝ่าเท้าของตนเอง จึงไม่ควรสั่งซื้อผ่านทางออนไลน์เพียงอย่างเดียว ไม่อย่างนั้นแล้วอาจจะพลาดและได้รองเท้าที่ไม่เหมาะสมกับตนเองมาแทนค่ะ

นอกจากความยาวของเท้าแล้ว ยังควรคำนึงถึงความกว้างของหน้าเท้าด้วย เพราะหากหลวมหรือคับจนเกินไปจะทำให้รู้สึกไม่สบายเท้า ส่งผลไปถึงความปลอดภัยขณะวิ่งได้ ด้วยเหตุนี้ คุณจึงควรอย่างยิ่งที่จะลองสวมรองเท้าทั้งสองข้างดูก่อน พร้อมกับทดลองเดินไปเดินมาหรือวิ่งเบา ๆ ให้แน่ใจว่า สามารถสวมใส่ได้สบายแล้วหรือไม่

อีกหนึ่งทริคที่จะช่วยให้คุณได้ครอบครองรองเท้าวิ่งที่เหมาะสมก็คือ การพกถุงเท้าสำหรับวิ่งไปลองสวมพร้อมรองเท้าด้วย เพราะถุงเราจะต้องสวมถุงเท้าด้วยทุกครั้งในขณะวิ่งอยู่แล้ว เราจึงควรที่จะซื้อรองเท้าโดยคำนึงถึงขนาดของเท้าที่เพิ่มขึ้นจากการสวมถุงเท้าด้วยนั่นเองค่ะ

การเลือกรองเท้าวิ่งที่เหมาะกับสภาพการใช้งาน ลักษณะรูปเท้า และลักษณะการวิ่งของเรานั้น นอกจากจะช่วยให้การวิ่งของสาว ๆ มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นแล้ว ยังเป็นการลดและป้องกันความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการวิ่งอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุข้อเท้าพลิก หรือการลื่นล้มก็ตาม นอกจากนี้ คุณสมบัติพิเศษเฉพาะในรองเท้าแต่ละรุ่น แต่ละแบรนด์ ก็ยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่เหมาะจะนำมาประกอบการตัดสินใจเพื่อเลือกซื้อ ทุกคนจึงไม่ควรที่จะมองข้ามในจุดนี้นะคะ

อย่างไรก็ตาม หลังจากการวิ่งออกกำลังกายแล้ว อีกสิ่งทีสำคัญสำหรับผู้หญิงทุกคนก็คือ การรักษาความสะอาดให้กับรองเท้าวิ่งและฝ่าเท้าของเราค่ะ เพราะเหงื่อที่ออกมาตามร่างกายสามารถทำให้เกิดกลิ่นอับชื้นภายในรองเท้า จนกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรียได้ สาว ๆ จึงควรหมั่นซักรองเท้าวิ่งเป็นประจำ พร้อมกับคอยดูแลสุขอนามัยของฝ่าเท้าให้ดีอยู่เสมอด้วย เพื่อให้สามารถออกวิ่งได้อย่างมั่นใจ โดยไม่ต้องกังวลในเรื่องของกลิ่นและความสะอาดค่ะ